วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ตำนานหมากฝรั่ง


ตำนานหมากฝรั่ง เกิดจากนายพลอันโตนิโอ โลเปช เอ็กซ์ ซานตา อันนา แห่งกองทัพเม็กซิโก ซึ่งเดินทางมาอยู่ในอเมริกา

และนำยางต้นไม้จากป่าในเม็กซิโกชื่อว่า ยางชิคลิ (chicli) มาด้วย ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่พวกอาซเท็ก

ต่อมาเมื่อเดือนก.พ. ปี 2414 โทมัส อดัมส์ นักถ่ายภาพและนักประดิษฐ์ เห็นว่าหมากฝรั่งที่นายพลซานตาเคี้ยวน่าจะเป็นที่นิยม จึงวางแผนเปิดตลาดหมากฝรั่ง จนประสบความสำเร็จ โดยหมากฝรั่งยุคแรก ทำเป็นเม็ดกลมเล็กๆ ไม่มีรสชาติ วางขายในร้านขายยาแห่งหนึ่งในเมืองโฮโบเค็น รัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐอเมริกา ขายราคาเม็ดละ 1 เพนนี และดัดแปลงทำเป็นรูปแผ่นสี่เหลี่ยมแบนๆ

ต่อมาปี 2418 จอห์น คอลแกน เภสัชกร เติมรสชาติในหมากฝรั่งโดยใช้ตัวยาทางการแพทย์ คือขี้ผึ้งหอมทูโล ซึ่งทำจากยางไม้ต้นทูโลในอเมริกาใต้ มีรสชาติหวานคล้ายกับยาแก้ไอน้ำเชื่อมของเด็กในยุคร้อยกว่าปีก่อน พร้อมทั้งตั้งชื่อหมากฝรั่งชนิดนี้ว่า "แทฟฟี่-ทูโล" ทำให้หมากฝรั่งกลายเป็นที่นิยมขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้น นายโทมัส อดัมส์ เจ้าเก่าก็ผลิตหมากฝรั่งรสชะเอม หรือที่เรียกว่า "แบล็กแจ๊ก" เป็นหมากฝรั่งเติมรสที่เก่าแก่ที่สุดที่มีขายอยู่ในท้องตลาดของอเมริกา

หลังจากนั้นปี 2423 นายวิลเลียม เจ.ไวต์ ผสมน้ำเชื่อมข้าวโพด และเติมรสด้วยเปเปอร์มินต์ ทำให้หมากฝรั่งซึ่งถูกตั้งชื่อว่า "รสเปเปอร์มินต์" และเป็นที่นิยมอย่างมาก

สำหรับหมากฝรั่งที่เป่าเป็นลูกโป่ง สองพี่น้อง แฟรงก์ และ เฮนรี ฟลีเออร์ เป็นผู้คิดค้นขึ้นแต่ในช่วงแรกยังมีคุณภาพไม่ดีนัก เป่าแล้วแตก ติดหน้าเหนอะหนะ จนในปี 2471 วอลเตอร์ เดมเมอร์ นำมาพัฒนาต่อและสามารถเป่าได้โตกว่าเดิม 2 เท่า และตั้งชื่อให้หมากฝรั่งแบบใหม่ว่า "ดับเบิ้ล บับเบิ้ล" ซึ่งไม่ได้ทำมาจากยางไม้อย่างหมากฝรั่งของนายพลซานตา แต่เป็นยางสังเคราะห์นุ่มซึ่งไม่มีรสและกลิ่น คนอเมริกันนิยมเคี้ยวเจ้ายางสังเคราะห์นี้มาก

ปัจจุบัน หมากฝรั่งมีหลากหลายรสชาติ เช่น รสมินต์ ทำให้ลมหายใจสดชื่น รสเลมอน ทำให้รู้สึกตื่นตัว หรือรสเปเปอร์มินต์ ที่ให้ความรู้สึกเย็น และยังมี "ลูกเล่น" ที่น่าตื่นตาตื่นใจ อย่างเช่น บับเบิ้ลกัมพ์ (หมากฝรั่งที่ยืดหยุ่นได้ มีลักษณะเป่าแล้วเกิดฟอง) ลูกอมและหมากฝรั่งผสมที่มีลักษณะคล้ายอมยิ้ม

จากเดิมที่ใช้หมากฝรั่งช่วยระงับกลิ่นปากและทำให้ลมหายใจหอมสดชื่น ในปัจจุบัน มีพัฒนาให้สามารถปกป้องเหงือกและฟัน เช่น หมากฝรั่งแบบไม่มีน้ำตาลโดยมีสารให้ความหวานเทียมจากไซลิทอลหรือน้ำตาลแอลกอฮอล์ธรรมชาติชนิดหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมี หมากฝรั่งสำหรับลดการติดบุหรี่ ซึ่งช่วยให้ประชาชนได้ประโยชน์มากกว่าความอร่อยอย่างเดียว

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สิวตัวร้ายเกิดขึ้นได้ยังไง


สิวเป็นอีกหนึ่งปัญหาพาเซ็งที่สาวๆ หลายคนต้องประสบพบเจอ ซึ่งสาวๆ หลายคนถึงกับเอ่ยปากว่า “อยากรู้จริงๆ ชั้นไปทำอะไรให้ ทำไมต้องมาขึ้นหน้าชั้นด้วย” …
>>> เริ่มต้นจากเมื่อร่างกายเริ่มผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจน มักเกิดขึ้นในช่วงก่อน/หลังมีประจำเดือน ฮอร์โมนจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันใต้ผิวขยายใหญ่ขึ้น
>>> และเมื่อต่อมไขมันถูกขยายใหญ่ขึ้น จะมีน้ำมันที่เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติของผิว ถูกผลิตออกมามากเกินไป และในขณะที่น้ำมันเดินทางจากต่อมไขมันสู่ปากรูขุมขน เกิดไปผสมเข้ากับแบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งอยู่ในรูขุมขน ทำให้เกิดการเข้มข้นเป็นพิเศษจึงเกิดการอุดตันรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง
>>> ตามปกติ เซลล์ที่ตายแล้วในรูขุมขนจะค่อยๆ ถูกกำจัดออกสู่ปากรูขุมขนโดยน้ำมันหรือเหงื่อ แต่เมื่อฮอร์โมนแอนโดรเจนกระตุ้นให้ต่อมไขมันใหญ่ขึ้นและผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น เซลล์ผิวหนังในรูขุมขนก็จะผลิตและตายเร็วขึ้นด้วย เมื่อมีเซลล์ที่ตายอยู่มาก ก็จะเกิดการอุดตันในรูขุมขนมากขึ้นเป็นทวีคูณ

>>> เมื่อรูขุมขนเกิดอุดตัน บวกเข้ากับเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งปกติแล้วก็อาศัยอยู่ตามผิวหนังและรูขุมขน แต่เมื่อเกิดการอุดตัน เชื้อแบคทีเรียซึ่งไม่ชอบออกซิเจน ก็จะแบ่งตัวได้อย่างรวดเร็วผิดปกติ จนเกิดเป็นสาเหตุของการอักเสบในรูขุมขนขึ้น

>>> เมื่อเกิดการอักเสบขึ้นแล้ว เม็ดเลือดขาวในร่างกายก็จะฆ่าแบคทีเรีย ทำให้สิวเกิดเป็นตุ่มแดง บวม เจ็บ และเกิดเป็นหัวหนองในที่สุด

วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เคล็ดลับการทำข้อสอบ



นักเรียนส่วนมากรู้สึกว่าการสอบเป็นเรื่องยาก ทำให้เครียด
กังวลและท้อใจถ้าผลการสอบออกมาไม่ดี หลายคนชอบเรียนแต่ไม่ชอบสอบ แต่ถ้าเราลองคิดในแง่ดีแล้ว การสอบมีประโยชน์มาก เพราะทำให้เรารู้ว่าผลการเรียนของตนเองอยู่ในระดับใด จะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น จงจำไว้ว่าคุณก็สามารถที่จะเอาชนะการสอบได้ ขอเพียงแต่คุณตั้งใจ แบ่งเวลาและเตรียมตัวสอบให้ดี วันนี้จะแนะนำเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการสอบให้ทราบกัน
1.เตรียมอุปกรณ์การสอบไปให้พร้อม เช่น ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัดรวมทั้งบัตรประจำตัวด้วย
2.ถ้าเลือกได้ให้เลือกที่นั่งที่ไร้สิ่งรบกวนและคุณรู้สึกสบาย มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีเสียงที่ดังเกินไปรบกวน
3.อ่านคำสั่งของข้อสอบให้เข้าใจ ถ้ามีปัญหาอะไรให้ถามผู้คุมสอบทันทีจะได้ไม่มีปัญหาว่าทำข้อ สอบผิด
4.ขีดเส้นใต้คำสำคัญ เช่น ไม่ เหตุใด และพิจารณาให้ดีว่าในคำถามหนึ่งข้อมีคำถามย่อยหรือไม่
5.เรียบเรียงความคิดว่าจะตอบคำถามแต่ละข้ออย่างไร
6.จัดแบ่งเวลาสำหรับการทำข้อสอบแต่ละข้อ โดยเฉพาะถ้าเป็นข้อสอบแบบอัตนัย
7.ควรทำข้อสอบส่วนที่มีสัดส่วนคะแนนมากที่สุดก่อน หรือถ้าทำไม่ได้ ให้ทำส่วนที่คิดว่าทำได้แน่นอน อย่างน้อยจะได้มีคะแนนบ้าง
8.ถ้าเป็นข้อสอบเขียนบรรยายก็ควรเขียนด้วย ลายมือที่อ่านง่าย ใช้ปากกาสีน้ำเงินหรือสีดำ จะได้สบายตาผู้ตรวจ และกระดาษคำตอบควรจะสะอาดเรียบร้อย
9.ตรวจความถูกต้องอีกครั้งก่อนส่งข้อสอบ ดูว่าทำถูกต้องตามคำสั่งหรือไม่ ตอบคำถามครบหรือเปล่า
10.หากพบสิ่งผิดปกติในห้องสอบ หรือมีสิ่งรบกวนการสอบ เช่น นอกห้องดังเกินไป ให้บอกผู้คุมสอบทันที
แต่พึงคิดไว้เสมอว่าไม่ว่าเราจะมีเคล็ดลับในการทำข้อสอบดีเลิศซักขนาดไหน สุดท้ายคะแนนสอบจะดีหรือไม่ดีอย่างไรมันก็อยู่ที่ตัวเราว่าเราได้ทุ่มเทให้มันเพียงพอหรือยัง อย่าลืมตั้งใจอ่านหนังสือกันนะค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

6 วิธี ทำให้ตัวเองดูเป็นคนฉลาด


คนคุณภาพ
ทำตัวเองให้ดูเป็นคนมีคุณภาพ โดยเริ่มจากรับผิดชอบงานที่ตัวเองได้รับมอบหมายให้ดีซะก่อน แล้วค่อยคิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคนอื่น
ฉลาดอย่างถูกต้อง
หากเราต้องการให้คนอื่นมองว่าเราเป็นคนฉลาด อย่าทำผิดศีลธรรมเป็นอันขาด ไม่ใช่เพราะโกงหรือหลอกลวงคนอื่นว่าเราฉลาด เพราะความฉลาดต้องมาจากความฉลาดอย่างถูกต้องเท่านั้น ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นความฉลาดที่ยั่งยืน
อัพเดทข่าวใหม่เสมอ
ติดตามข้อมูลข่างสารใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ อ่านหนังสือพิมพ์ให้มากกว่า 1 ฉบับต่อวัน ถ้าเป็นไปได้ยามว่างก็ลองหานิตยาสารดีๆซักเล่มมานั่งอ่าน ให้หัวสมองได้ทำงานบ้าง
ใช้เหตุผล...และคิดก่อนทำ
เคยเห็นคนโกรธ โมโหร้าย ใช้แต่อารมณ์โดยไม่ฟังเหตุผลหรือเปล่า สถาพคงไม่น่ามองแน่ๆ แล้วถ้าเป็นเรา เราจะทำอย่างนั้นหรอ อย่าลืมซะว่า เหตุผล มาก่อนอารมณ์มันดีกว่าเป็นไหนๆ คนฉลากที่ไหนเค้าก็ทำกันทั้งนั้น ถ้างั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเราแล้วล่ะว่า จะเลือกที่จะฉลาด หรือโง่ ล่ะ
nobody's perfect
เตือนตัวเองอยู่เสมอว่าnobody's perfectจงรู้จักที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมา เพื่อใช้เป็นสิ่งเตือนความจำ น้องๆเคยได้ยิน คำว่า “ผิดเป็นครู” หรือเปล่าจ๊ะ นั่นแหละ เค้าต้องการจะสอนว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะสอนเราให้เราเก่งและฉลาดขึ้น เพื่อพร้อมจะเผชิญหน้าต่ออุปสรรค์ต่างๆ
ไม่เหมือนใคร
คิดซะว่า ตัวเรามีแค่คนเดียวไม่ซ้ำใคร อย่าเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่น ข้อดีข้อเสีย จุดด้อยจุดเด่น ของแต่ละครย่อมไม่เหมือนกันอีกเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเป็นตัวของตัวเองกันดีกว่า ลองดึงจุดเด่น และข้อดี ของตัวเราออกมาใช้ดูซิ แล้วจะพบว่า ตัวเองมีค่าขึ้นอีกเยอะเลย

วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

4 สิ่ง 'ควรทำ' และ 'ไม่ควรทำ' ในรัสเซีย


PLEASE DO ...
1. เช็คปฏิทินว่ามีงานหรือกิจกรรมรื่นเริงอะไรบ้าง โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคมและพฤษภาคมนั้น เป็นช่วงที่รัสเซียโดยเฉพาะเมืองมอสโคว์(เมืองหลวง) มีกิจกรรมและงานรื่นเริงต่างๆ เยอะมาก ทั้งขบวนพาเหรดและคอนเสิร์ตต่างๆ ดังนั้นไปเที่ยวรัสเซียทั้งที จึงไม่ควรพลาดที่จะเข้าร่วมงานเหล่านี้
2. หากถูกเชิญให้ไปบ้านของคนรัสเซีย ควรจะเตรียมไวน์ เค้ก ขนมลูกกวาดไปเป็นของฝากให้เจ้าของบ้านด้วย โดยเฉพาะถ้าของนั้นๆ เป็นยี่ห้อของรัสเซียล่ะก็ รับรองว่าจะถูกใจผู้รับมากๆๆๆ
3. การแต่งตัวไปเที่ยวยามค่ำคืนนั้น ควรพยายามแต่งให้ดูกลืนไปกับคนรัสเซีย โดยผู้หญิงจะนิยมใส่ส้นสูงและกระโปรงสั้น ส่วนผู้ชายใส่ดำทั้งชุด
4. ประเทศรัสเซียได้ชื่อว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก เพราะฉะนั้นเตรียมใจได้เลยว่าการไปรัสเซียนั้นจะต้องเสียเงินเยอะมากๆๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าที่พักหรือค่าอาหาร โดยเฉพาะถ้าเป็นคนต่างชาตินั้น ในการไปใช้บริการอะไรต่างๆ เช่น ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ อาจจะต้องจ่ายแพงกว่าคนรัสเซียปกติถึง 10 เท่า
PLEASE DON'T...
1.อย่าตกใจถ้าถูกตำรวจรัสเซียเรียก เพราะตามท้องถนนมักจะมีตำรวจเดินไปเดินมาแล้วขอเรียกตรวจพาสปอร์ตและวีซ่าของนักท่องเที่ยว ซึ่งถ้าไม่ได้พกมา ตำรวจจะตามคุณกลับไปถึงที่พักเพื่อขอดูพาสปอร์ตและวีซ่าเลยทีเดียว ดังนั้นไม่ต้องตกใจถ้าถูกตำรวจเรียก เป็นเรื่องปกติมากๆๆ (แต่สำหรับคนไทยสามารถเดินทางไปรัสเซียได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าเป็นเวลา 30 วันนะ)
2. ห้ามนั่งบนมุมโต๊ะ เป็นความเชื่อของคนรัสเซียที่ว่าหากนั่งบนมุมโต๊ะแล้ว จะไม่ได้แต่งงาน !! จนกว่าจะถึงอีก 7 ปีข้างหน้า
3. อย่าวางขวดวอดก้าเปล่าๆ ที่ไม่มีวอดก้าอยู่ในขวดบนโต๊ะ เป็นความเชื่ออีกเหมือนกันว่าจะเกิดโชคร้าย คนรัสเซียจะวางขวดวอดก้าเปล่าๆ ลงบนพื้น ไม่วางบนโต๊ะ
4. อย่าลืมพกบัตรนักเรียน หรือ International Student Identity Card ติดตัวตลอดเวลา อย่างที่บอกไปว่ารัสเซียมีค่าครองชีพสูงมาก ดังนั้นบัตรนักเรียนอาจจะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้อย่างมากโข โดยเฉพาะค่าบัตรผ่านประตูเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งมีราคาแพงมาก