วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2553

อย่ามองข้าม หัวฝักบัว แหล่งสะสมเชื้อโรค


หัวฝักบัว แหล่งสะสมเชื้อโรคที่ไม่ควรมองข้าม (Woman's Story)

ใครที่ใช้ฝักบัวอาบน้ำอยู่เป็นประจำ ต้องมาฟังทางนี้เลยนะคะ เพราะหากคุณไม่ระวัง อาจเป็นที่มาของโรคปอดในไม่ช้าแน่นอนค่ะ

เนื่องจากได้มีการสุ่มตรวจวิเคราะห์หาเชื้อโรคในหัวฝักบัว ตามสถานที่ต่าง ๆ กว่า 9 เมือง พบว่าร้อยละ 30 มีเชื้อมัยโคแบคทีเรียม เอเวียม ปนเปื้อนอยู่มาก ตามปกติเชื้อตัวนี้พบในน้ำประปาทั่วไป แต่สะสมอยู่ในหัวฝักบัวมากกว่าระดับที่พบในน้ำประปาถึง 100 เท่า ซึ่งหากผู้ใช้เปิดให้น้ำจากฝักบัวโดนหน้าตั้งแต่ครั้งแรก จะทำให้ได้รับเชื้อดังกล่าวสูงมาก และเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดตามมา

จากการตรวจพบอีกว่าในฝักบัวแบบที่เป็นโลหะ จะพบการสะสมของเชื้อโรคน้อยกว่าแบบพลาสติก ดังนั้นการแก้ไขผู้ใช้ก็ควรเปลี่ยนหัวฝักบัวมาใช้แบบโลหะ ที่มีตัวกรองช่วยในการลดการสะสมของเชื้อโรค หรือเปลี่ยนไปอาบน้ำในอ่างแทน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการรับเชื้อเข้าสู่ปอดได้เช่นกัน

วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553

คุณพูดได้กี่ภาษา


"แคน ยู สปีค อิงลิช ?" "แคน ยู สปีค ไชนีส ?" "แคน ยู สปีค แจแปนนิส ?" หนุ่มๆ หลายคนคงเคยเจอคำถามต่างๆ ประมาณนี้ ส่วนใหญ่จะยิ้มแหยๆ พร้อมกับตอบว่า "อ่า เอ่อ.. อะ ลิตเติ้ล" หรือท่องคาถาประจำใจเอาไว้ว่า "โน ไอ แค้นท์"
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะไม่เชี่ยวชาญทางด้านภาษาอื่น ที่นอกเหนือจากภาษาไทย แต่หนุ่มที่สามารถพูดภาษาที่สอง หรือที่สามได้เนี่ย ก็มีเสน่ห์ไม่เบาเลย กิจกรรมยามปิดเทอม พี่มิ้งเลยอยากชวนหนุ่มๆ เสริมทักษะด้วยการเรียนรู้ภาษาอื่น มีใบสมัครเรียนกันหรือยัง ?
ทำไมต้องเรียน
หลักการและเหตุผล (ดูวิชาการมาก) ของการเรียนภาษาต่างประเทศไม่ว่าจะ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ไล่มาจนถึงเอเซีย ญี่ปุ่น จีน เกาหลี แต่ไม่ต้องขนาดแอฟริกานะ เพราะยังไม่เป็นที่กว้างขวางมาก ก็เพราะว่า ภาษาเหล่านี้เป็นข้อได้เปรียบในหลายๆ ด้าน ทั้งในตอนสมัครศึกษาต่อก็ใช้ไปข้อได้เปรียบ หรือทำให้มีตัวเลือกในสาขาวิชาต่างๆ หรือในด้านสังคมก็ทำให้หนุ่มๆ นักสปีค ดูเด่นเป็นเสน่ห์ สามารถตอบโต้เจ้าของภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว มีทั้งการเรียนภาษา ยังเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ที่มักเกี่ยวเนื่องกับภาษาอีกด้วย
อนาคตสดใส
หากหนุ่มๆ ฝึกปรือภาษาต่างๆ อย่างต่อเนื่องเชี่ยวชาญ ไม่ละทิ้งระหว่างทาง จะเป็นตัวช่วยที่ดีนำทางเลือก และความสำเร็จมาให้อย่างมากมาย จะเป็นนักแปลภาษาแปลหนังสือ, มัคคุเทศก์ พาชาวต่างชาติท่องเที่ยวประเทศไทย หรือเก่งมากๆ ก็เป็นครูสอนภาษาเสียเองเลย หรือหนุ่มๆ โตไปถึงขนาดเรียนจบ ก็มีงานที่ต้องใช้ภาษาเป็นสำคัญ รอให้เลือกอยู่
หนทางพิชิตภาษาต่างดาว
ดูเหมือนว่าภาษาที่เราไม่เข้าใจ จะดูยุ่งยากจนบางทีเราแอบคิดว่า มันเป็นภาษาของดาวดวงไหนในระบบสุริยะจักรวาล หรือเปล่า? แต่จากประสบการณ์ในการไปนั่งท่อง หนีห่าว, ไจ้เจี้ยน, เฉิน เมอ ก็พอจะได้เคล็ดลับในการจะบรรลุภาษาต่างประเทศเหล่านี้เช่นกัน
- ในห้องเรียน ตั้งใจเรียน,ไม่กลัวที่จะหัดออกเสียง (ถ้ามัวแต่กลัวผิด อาจไม่รู้สิ่งที่ถูก), ทำแบบฝึกหัด ขยันทบทวนบทเรียน, อ่านบทต่อไปที่จะเรียนล่วงหน้า, เพื่อจะได้เรียนรู้ได้เร็วและสามารถถามข้อสงสัยผู้สอนได้
- เสริมเขี้ยวเล็บ ด้วยการหัดฟังเพลงหรือดูรายการของภาษาที่เรียนอยู่, หัดแชทหรือพูดคุยกับเจ้าของภาษา, และฝึกอ่านเขียนตัวอักษรด้วยนะ
เป็นเคล็ดเล็กน้อย ที่อยากแนะนำสำหรับนักเรียนภาษา แอบหยิบไปใช้ตอนเรียนภาษา ในช่วงปิดเทอมอย่างนี้ได้นะ เวลามีใครมาถามว่า "แคน ยู สปีค..." เราก็ตอบไปเลยว่า "เยสสส!!!"

วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553

รู้ไว้ใช่ว่า : วิธีป้องกันตัวเอง เมื่อเจอความรุนแรง


มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด" แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้คนเราต้องระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยทั้งร่างกาย จิตใจ และทรัพย์สิน วันนี้จึงนำข้อควรปฏิบัติเมื่อผู้หญิงต้องอยู่ในที่สาธารณะโดยลำพัง ไม่ว่าจะในลิฟต์ ห้องน้ำสาธารณะ หรือแม้กระทั่งบ้านของตัวเอง มาฝากกันค่ะ
กรณีอยู่ในสถานการณ์คับขัน
หากคนร้ายประชิดตัว และอยู่กันตามลำพัง พยายามรวบรวมสติอย่าตกใจจนเกินไป หาวิธีการช่วยเหลือตนเองเฉพาะหน้า โดยการใช้น้ำเย็นเข้าลูบ หรือพูดจาถ่วงเวลาให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหาทางหลบหนีออกมาจากสถานการณ์นั้น ๆ
พยายามไม่ยั่วยุคนร้าย เพราะอาจทำให้คนร้ายใช้ความรุนแรงมีหลายจุดที่อาจจู่โจมคน ร้ายได้ เช่น ดวงตา อวัยวะเพศ แต่ต้องให้แน่ใจว่าสามารถทำให้คนร้ายเจ็บจริงจนหยุดการกระทำ หรือเสียการทรงตัวชั่วขณะ เพื่อให้สามารถหลบหนีออกมาจากสถานการณ์ตรงนั้นได้ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้สถานการณ์แย่กว่าเดิม
กรณีอยู่ท่ามกลางฝูงชนหรือบริเวณที่มีผู้คน เช่น ถูกอนาจารบนรถเมล์ ไม่ควรอาย ให้ร้องขอความช่วยเหลือดัง ๆ หากพบว่ามีคนเดินตามในที่เปลี่ยว ควรตะโกนว่า "ไฟไหม้" อย่าตะโกนว่า "ช่วยด้วย" แล้ววิ่งหนีให้เร็วที่สุด ควรแจ้งความหรือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันเพื่อนำตัวคนทำผิดมาลง โทษ หรืออย่างน้อยเพื่อเป็นการตักเตือนผู้กระทำผิด ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือต้องตั้งสติให้มั่นเพื่อที่จะเลือกวิธีเอาตัวรอดได้อย่าง เหมาะสม
กรณีความรุนแรงในครอบครัว
ไม่ทำให้เหตุการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น เช่น ยุติการโต้เถียงในขณะที่ต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์โกรธ แล้วพยายามหันหน้ามาปรึกษาพูดคุยกันเมื่อต่างฝ่ายอยู่ในสภาพที่พร้อม กรณีที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้โดยตรง อาจให้ผู้ใหญ่ที่นับถือ หรือญาติพี่น้องมาเป็นตัวกลางในการพูดคุย
กรณีที่ถูกทำร้ายหรือไม่มั่นใจในความปลอดภัยให้พยายามเลี่ยงจากสถานการณ์ หรือ สถานที่นั้น โดยอาจติดต่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ญาติพี่น้อง หรือเพื่อน หรือบุคคลที่ไว้ใจ หรือย้ายที่อยู่ชั่วคราวจนกว่าปัญหาจะคลี่คลาย
โทรศัพท์ขอคำปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากญาติพี่น้อง เพื่อน หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือ หากยังไม่ได้ผล ควรตัดสินใจใช้สิทธิตามกฎหมาย แจ้งความต่อตำรวจ เพราะไม่มีใครมีสิทธิทำร้ายผู้อื่นแม้จะเป็นสามี
ตั้งสติพยายามทบทวนเรื่องราว หาเหตุผลและวิธีการแก้ไขปัญหา รวมถึงพิจารณาว่าหากจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันต่อไปควรมีข้อตกลงกันอย่างไรเพื่อ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก
ไม่ระบายอารมณ์กับเด็ก โดยดุด่า ทุบตี หรือทำร้ายเพื่อประชดอีกฝ่ายหนึ่ง
กรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ควรรีบให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมง ไม่ควรอาบน้ำหรือชำระล้างร่างกายหรือเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อให้สามารถเก็บหลักฐานได้ชัดเจนและครบถ้วน เพราะการตรวจร่างกายอย่างเร่งด่วนไม่ว่าจะตัดสินใจดำเนินคดีหรือไม่ จะเป็นผลดีในแง่การป้องกันการติดโรคจากเพศสัมพันธ์ ป้องกันการตั้งครรภ์ ซึ่งสามารถทำได้ดีภายใน 48 ชั่วโมง และเมื่อตัดสินใจที่จะแจ้งความร้องทุกข์เมื่อใด พยานหลักฐานทางการแพทย์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ว่าถูกละเมิดทางเพศจริง เพราะการดำเนินคดีการละเมิดทางเพศในประเทศไทยให้ความสำคัญกับผลการตรวจร่าง กายของแพทย์เป็นสำคัญ
หลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียวตามลำพัง เพราะอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่เป็นผลร้ายกับตนเอง เช่น ทำร้ายตนเอง พยายามฆ่าตัวตาย ให้กำลังใจตนเอง ไม่ควรลงโทษตนเอง เพราะไม่มีผู้ใดต้องการถูกข่มขืน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่ความผิดของตนเอง แต่เป็นความผิดของชายที่มากระทำต่างหาก ให้รำลึกอยู่เสมอว่า คุณค่า อนาคต ความสามารถของเรามิได้สูญเสียไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ควรตัดสินใจคลี่คลายปัญหาโดยอาจหาบุคคลที่ไว้ใจได้ เช่น พ่อแม่ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อร่วมกันคิดแก้ไขปัญหาหรือแจ้งความนำผู้กระทำผิด มาลงโทษ เพื่อไม่ให้เขามีโอกาสมากระทำซ้ำ หรือไปกระทำกับคนอื่นอีก
ข้อควรจำทางกฎหมาย
เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสสำคัญในการที่จะพิทักษ์สิทธิตามกฎหมายของตนเอง ผู้ถูกข่มขืนที่มีอายุเกิน 15 ปี ระยะเวลาที่สามารถแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมีเพียง 3 เดือน นับจากวันเกิดเหตุเท่านั้น สำหรับผู้ถูกข่มขืนที่อายุไม่ถึง 15 ปี เป็นกรณีที่ยอมความไม่ได้ มีระยะเวลาแจ้งความร้องทุกข์ภายใน 10 ปี นับแต่วันที่เกิดเหตุ

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

แมวพันธุ์ Exotic เจ้าเหมียวตาโต๊โต


แมวอะไรหน้าบูด จมูกหัก แต่น่าร้ากกสุด ๆ หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า แมวพันธุ์ Exotic ที่ห็นอยู่นี้เป็นเหมียวพันธุ์ เปอร์เซีย แม้จะไม่ถูกแต่ก็ไม่ผิดซะทั้งหมด เพราะเจ้าแมวพันธุ์นี้ เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่าง แมวเปอร์เซีย กับ แมวพันธุ์อเมริกันขนสั้น (American Shorthair) ทำให้ได้เจ้าเหมียวพันธุ์ Exotic หลายสายพันธุ์ เช่น Exotic Blue Tabby, Exotic Red Tabby, Exotic Cream Tabby และมีหลายสีสัน น่ารักน่าเลิฟเช่นนี้แล
สำหรับลักษณะทั่วไปของ แมวพันธุ์ Exotic ถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้มีลักษณะทุกอย่างเหมือนกับ แมวเปอร์เซีย ไม่ว่าจะเป็นลักษณะหัวกลม กะโหลกใหญ่ ใบหูเล็กกลม จมูกหักเล็กน้อย ยกเว้นอยู่หนึ่งอย่างที่เป็นลักษณะเด่นของ Exotic ก็คือ ขนที่หนา แน่น นุ่มสั้นคล้ายกับกำมะหยี่ ที่สำคัญขนอันสวยงามของแมวพันธุ์ Exotic ยังต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่าแมวเปอร์เซียโดยทั่ว ๆ ไป เพราะไม่จับตัวเป็นก้อนหรือพันกันยุ่งเหยิง

ส่วนเรื่องอุปนิสัยของ แมวพันธุ์ Exotic แทบไม่มีความแตกต่างจาก แมวเปอร์เซีย เลย แมว Exotic เป็นแมวที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ ไม่ค่อยหงุดหงิด และอดทน อย่างไรก็ดี คุณอาจแทบไม่ได้ยินเสียงร้องของแมวพันธุ์นี้ เพราะมันค่อนข้างจะสงบ เงียบ และหากมันต้องการความสนใจ มันก็เพียงแค่นั่งอยู่หน้าคุณ กระโดดมานั่งบนตัก หรือไม่ก็เอาจมูกชื้น ๆ ของมันมาแตะที่หน้าคุณ นอกจากนี้ ยังพบว่า แมวพันธุ์ Exotic บางตัวอาจจะชอบนั่งอยู่บนไหล่ และกอดคุณเวลาคุณเล่นด้วย
ใครที่อยากเลี้ยงแมวสายพันธุ์ต่างประเทศ หรือแมวเปอร์เซีย แต่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลขน แมวพันธุ์ Exotic ก็อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมันเป็นแมวไม่ค่อยจะยุ่งยากที่จะเลี้ยงไว้ในบ้าน และไม่ค่อยจะเรียกร้องความสนใจเท่าใดนัก ก็เหมือนสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ โดยทั่วไป ที่ชอบเล่น สนุกที่จะกระโดดเพื่องับของเล่นหรือแท่งไม้ รวมทั้งมีกิจวัตรประจำวันสุดชิลอันได้แก่ บิดขี้เกียจ และนอน นอน นอน