วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

7 มหัศจรรย์แห่งชีวิต และ 7 หลักคิดจาก ว.วชิรเมธี

ช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้ ใครที่กำลังเป็นทุกข์ ทั้งทางกายและทางใจ และกำลังมองหาหนทางในการก้าวไปสู่การดับความทรมานใจนั้นๆ ลองปรับทัศนะของชีวิต ด้วยแนวคิดเชิงบวก ข้อคิดดีๆ จาก พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี
ว.วชิรเมธี พระ นักเทศน์ชื่อดัง ได้ให้ข้อคิดในหลักธรรมแห่งการดำเนินชีวิต ในหนังสือชุด “มหัศจรรย์แห่งชีวิต” ประกอบ ด้วย ซีดี และหนังสือรวบรวมแนวคิด ซึ่งผู้ฟังและผู้อ่านสามารถนำข้อคิดที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อบรรเทาความทุกข์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ ในสถานการณ์ปัจจุบัน กับภาวะเครียดที่รุมเร้าคนไทย ทั้งวิกฤตการเมืองและวิกฤตเศรษฐกิจสำหรับ 7 หลักคิดในเชิงบวก ที่สามารถหยิบมาเป็นยาชูกำลังใจในยามท้อแท้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยใน 7 หลักคิด มีข้อคิดดีๆ อีก 7 ข้อ เป็นพลังมหัศจรรย์ของ 7x7 ได้แก่
1. ความคิดดีๆ เป็นที่มาแห่งความสุข แน่นอนว่าเมื่อเรามีความคิดดีๆ โลกก็จะดีตามอย่างที่เราคิด ดังที่ท่านว่าไว้ในหนังสือเล่มนี้ว่า “โลกเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าเราใส่แว่นตาสีอะไรมองโลก หากมองโลกในแง่ดี ชีวิตมีแต่สิ่งรื่นรมย์ หากมองโลกในแง่ร้าย ชีวิตมีแต่ความวุ่นวายและทุกข์ระทม”
2. ปัญญาดีย่อมมีความสุข คนมีปัญญาย่อมใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาเพื่อให้พ้นทุกข์ ดังนั้น สำหรับคนมีปัญญา วิกฤตอยู่ไหน ปัญญาอยู่นั่น ส่วนคนด้อยปัญญา โอกาสอยู่ไหน วิกฤตอยู่นั่น จงเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา เปลี่ยนอุปสรรคเป็นอุปกรณ์3. ชีวิตของคนดีคือชีวิตที่มีความสุข ดังท่านว่า ดอกไม้หอมได้บางดอก แต่มนุษย์หอมได้ทุกคน หากเขาเป็นคนดี กลิ่นดอกไม้แม้หอมขนาดไหน ก็หอมได้แต่ตามลมเท่านั้น ส่วนกลิ่นความดีของคนดีนั้น หอมหวนทวนลม ฟุ้งกระจายไปในทิศทั้งสี่ ดอกไม้ผลิบานแล้วไม่นานก็ร่วงโรย แต่ความดีของคนนั้น สถิตเป็นนิรันดร์เหนือกาลเวลา
4. ปฏิสัมพันธ์ดีก็มีความสุข ซึ่งเป็นการเลือกคบมิตร โลกนี้มีมิตรอยู่ 3 ประเภทคือ 1. ปาปมิตร เพื่อนชั่ว จงอย่าคบ 2. กัลยาณมิตร เพื่อนดี จงคบ 3. พันธมิตร เพื่อนที่ผูกพันกันด้วยผลประโยชน์ จงระวัง
5. ทำงานดีก็มีความสุข ท่านว่าไว้ คนจำนวนมากเป็นทุกข์ขณะทำงาน แต่เบิกบานเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ โดยหารู้ไม่ว่า ในหนึ่งสัปดาห์มีเสาร์-อาทิตย์แค่สองวัน จงเป็นสุขขณะทำงาน จงเบิกบานขณะหายใจ
6. มองโลกในแง่ดี ชีวิตมีความสุข ดังผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันถูกอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด ใครทำความเข้าใจคำกล่าวนี้ได้อย่างลึกซึ้ง คนนั้นจะไม่ทุกข์ และเขาจะไม่หวั่นไหว ในความผันแปรของชีวิต สิ่งใดเกิดขึ้นมาเขาจะอุทานอยู่เสมอว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง”
7. ครอบครัวดีทวีความสุข ครอบครัวคือพื้นฐานสำคัญของชีวิต บุตรธิดาคืออนุสาวรีย์ของพ่อแม่ หากลูกเป็นคนดี อนุสาวรีย์ของพ่อแม่ก็งดงาม หากลูกเลวทราม อนุสาวรีย์ของพ่อแม่ก็อัปลักษณ์

วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Leonardo Da Vinci : จิตรกร ช่างแกะสลัก สถาปนิก วิศวกร หรือนักวิทยาศาสตร์?


อัตชีวประวัติของอัจฉริยะ ลีโอนาโด ดา วินชี เป็นอีกเรื่องราวหนึ่ง ที่น่าสนใจ
และก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่ทำให้พายฟันธงได้ว่า "การอ่านทำให้คุณมหัศจรรย์"
เพราะไม่ว่าจะเป็น จิตรกร ช่างแกะสลัก สถาปนิก วิศวกร หรือ นักวิทยาศาสตร์ ก็รวมอยู่ในคนคนนี้
ลีโอนาโด ดาวินชี เกิดเมื่อ 15 เมษายน ปี ค.ศ. 1452 (ประมาณ 555 ปีแล้ว) ในเมือง Vinci แถบ Florence ประเทศอิตาลี
ลีโอนาโดถือเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่คนนึง ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance)
อีกทั้งยังได้รับการยอมรับอย่างมากในด้านวิทยาศาสตร์อีกด้วย
กว่าศตวรรษหลังจากเขาเสียชีวิตลง นวัตกรรมด้านการวาดภาพของเขากลับมีอิทธิพลอย่างมาก
กับหลักสูตรวิชาจิตรกรรมในอิตาลี ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันนั้น ด้านวิทยาศาสตร์ก็ได้รับประโยชน์
จากการศึกษาของดาวินชี ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง กายวิภาคศาสตร์ (anatomy) ทัศนศาสตร์ (optics) และเรื่องระบบไฮดรอลิก (hydraulics) ที่ใช้น้ำในการขับเคลื่อน ก็เป็นสิ่งที่ลีโอนาโด คิดไว้ก่อนล่วงหน้าการพัฒนาของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่หลายขุมนัก
ถ้าสมัยนั้นมีรางวัลโนเบล ชายผู้นี้คงจะกวาดไปซะแทบทุกแขนง...

ลีโอนาโด ดา วินชี เป็นบุตรนอกกฎหมาย ของ Ser Piero กับ หญิงสาวชนบท
เขาจึงไม่ได้รับการศึกษาอย่างเป็นแบบแผนเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป
แต่อย่างไรก็ตาม ลีโอนาโดกลับได้ความรู้มากมาย
จากความสุขในการชอบอ่านผลงานต่างๆ ของนักวิชาการกรีกโรมันโบราณด้วยตัวเขาเอง
ราวปี 1466 ลีโอนาโดมีโอกาสได้เข้าฝึกงานกับ จิตรกรและนักแกะสลักชาวฟรอเรนไทน์ (Florentine) ชื่อ แอนเดรีย เดล เวอรอคชิโอ (Andrea del Verrocchio) ผู้ซึ่งเป็นจิตรกรเอกของเมืองฟลอเรนซ์ในยุคนั้น
ว่ากันว่า ลีโอนาโด ซึ่งเป็นศิษย์ สามารถวาดภาพได้ดีกว่า Verrocchio มาก
จนทำให้ Verrocchio ตัดสินใจเลิกวาดภาพเลยทีเดียว
เมื่ออายุได้ 22 ปี เขาก็ได้เป็น สมาชิกของ guild of St. Luke โดยได้จารึกชื่อไว้ว่าเป็น จิตรกร
ภายในปี 1478 ลีโอนาโด จึงกลายเป็นศิลปินอย่างเต็มตัว โดยมีภาพวาดชิ้นใหญ่ภาพแรกคือ Adoration of the Magi
ซึ่งเป็นภาพที่ ในที่สุดแล้วลีโอนาโดก็ไม่ได้วาดให้เสร็จ ผลงานอื่นๆ ในช่วงเดียวๆ กันของเขา ได้แก่
ผลงานที่เป็นที่รู้จักกันภายใต้ชื่อ Benois Madonna, ภาพ portrait ของ Ginevra de Benci และ
อีกภาพที่วาดไม่เสร็จเช่นกัน Saint Jerome


มีกิตติศัพท์ คำเล่าลือเกี่ยวกับลีโอนาโดว่า สมัยเป็นหนุ่มนั้น
เป็นคนที่หน้าตาดีมาก เป็นเด็กหนุ่มที่น่าจับตามองที่สุด
""beautiful, strong, graceful in all his actions,
and so charming in conversation that he drew all men's spirits to him."
ซึ่งพอจะแปลความได้ว่า
"ความงดงาม, ความแข็งแรง, ความสง่า มีอยู่ในทุกการกระทำของเขาและ ความมีเสน่ห์ ในการปฏิสันถาร ซึ่งเขาได้ดึงดูดจิตใจ ของทุกคนสู่เขา "

แต่ทว่า...

ยังมีอีกคำกล่าวนึง
"Leonardo and His World
He was left handed in a world where such were considered demon filled.
He was an outspoken vegetarian in a world of meat eaters.
He was a pacifist in a world where force was a tool of government.
He was a gay man in world where only heterosexuals were okay."

"ลีโอนาโด และ โลกของเขา
เขาผู้ซึ่งถนัดซ้าย มีชีวิตอยู่ในโลกซึ่งมองการถนัดซ้ายเป็นเหมือนปีศาจสิงอยู่
เขาทานมังสวิรัติ ท่ามกลางโลกของมังสโภชนา
เขาเป็นผู้ยึดมั่นในสันติ ท่ามกลางโลกซึ่งใช้อำนาจเป็นเครื่องมือในการปกครอง
เขาเป็นเกย์ ท่ามกลางโลกที่คิดว่ารักต่างเพศเท่านั้นจึงจะถูกต้อง"

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

3 ร้านช็อกโกแลตชื่อดังในนิวยอร์กเตรียมพร้อมแล้วสำหรับวาเลนไทน์นี้


Mariebelle มีช็อกโกแลตร้อนที่มีชื่อเสียงมาก โดยลูกค้า
สามารถนั่งจิบช็อกโกแลตร้อนๆ ได้ภายในร้านที่มีบรรยากาศสงบ
ฃนอกจากนี้ยังมีช็อกโกแลตให้เลือกกว่า 27 ชนิด เช่น รสมะนาว
รสถั่วฮาเซล รสชา

เมนูเครื่องดื่มช็อกโกแลตที่ได้รับความนิยม
• Aztec Hot Chocolate
• Aztec Spicy Hot Chocolate
• Aztec Mocha Hot Chocolate
• Aztec Iced Chocolate
• Iced Chocolate With Orange Juice
• Iced Chocolate With Coconut



Martine's Chocolate ก่อตั้งในปี 1992
เป็นร้านช็อกโกแลตที่ถูกจัดอยู่ในอันดับ 1 ของร้านช็อกโกแลตที่ดีที่
สุดจากนิตยสารผู้บริโภคฉบับหนึ่ง และได้รับการจัดอันดับให้เป็นร้าน
ช็อกโกแลตที่มีคุณภาพดีที่สุดในปี 2008-2010 จากคู่มือของ
Zagat Gourmet เนื่องจากเป็นร้านช็อกโกแลตที่เน้นทำสดๆ
แฮนด์เมด ซึ่งแสดงวิธีทำกันสดๆ ต่อหน้าลูกค้า และมีขั้นตอนการ
เลือกวัตถุดิบที่สด ธรรมชาติ และต้องดีที่สุดในโลก เช่น เนยจาก
ฝรั่งเศส ช็อกโกแลตจากเบลเยี่ยม ครีมจากอเมริกา ส่วนเมนูที่ดัง
และขึ้นชื่อคือ Chocolate Sugar Free ที่กินแล้วไม่อ้วนนั่นเอง


Vosges เป็นร้านที่จัดตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อให้ลูกค้า
ได้ชิมรสชาติช็อกโกแลตอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งช็อกโกแลตที่นำมา
ขายถูกผลิตอยู่ในครัวใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ในชิคาโก้ เมนูที่ขึ้นชื่อว่า
แปลก แต่มีรสชาติที่เข้ากันและอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อคือ เบคอน
ช็อคโกแลต เป็นเนื้อเบคอนในช็อกโกแลตนม

เมนูอื่นๆ ที่ขึ้นชื่อ
• Full Moon Brownies
• Love Goddess Cake
• Chocolate, Chili Mole Marinade

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

23 กันยา วันลาโลกของ "ซิกมุนด์ ฟรอยด์" บิดาแห่งจิตวิเคราะห์


(23 ก.ย.) เมื่อ 65 ปีที่แล้ว (ปี 1939) เป็นวันสุดท้ายที่ ซิกมุนด์ (ซิกมันด์) ฟรอยด์ นักจิตวิทยาชาวออสเตรีย บิดาแห่งศาสตร์ที่ว่าด้วยจิตวิทยาของโลกได้มีลมหายใจอยู่บนโลก
ซิกมุนด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) นักจิตวิทยาชาวออสเตรียเชื้อสายยิวเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 1856 ในจักรวรรดิออสเตรียซึ่งปัจจุบันคือเมืองไฟรเบิร์ก รัฐโมราเวีย สาธารณรัฐเช็ก ชื่อเดิมของเขาเมื่อแรกเกิดคือ ซิกิสมุนด์ ชโลโม ฟรอยด์ ก่อนที่จะตัดให้สั้นลงเหลือแค่ซิกมุนด์ ฟรอยด์ในปี 1877
ครอบครัวของฟรอยด์มีอาชีพขายขนสัตว์ มีฐานะปานกลาง เมื่ออายุได้ 4 ขวบจึงย้ายจากเมืองไฟรเบิร์กไปอยู่ที่กรุงเวียนนา และแต่งงานกับมาร์ธา เบอร์เน มีลูกด้วยกันถึง 6 คน จนถึงปี 1938 กองทัพนาซีของเยอรมันบุกเข้ายึดครองออสเตรีย ทำให้เขาต้องหลบหนีไปอยู่ที่อังกฤษ และ 1 ปีหลังจากนั้นเขาก็ถึงแก่กรรมในวันที่ 23 กันยายน 1939 ด้วยอายุ 83 ปี
ฟรอยด์สนใจด้านวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก เขาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเวียนนาสาขาวิทยาศาสตร์ในปี 1873 แต่เนื่องจากสาขานี้มีรายได้น้อยไม่พอหาเลี้ยงครอบครัว เขาจึงตัดสินใจเรียนต่อในสาขาแพทยศาสตร์ หลังจากเรียนจบเขาได้ไปศึกษาต่อด้านโรคทางสมองและประสาทที่กรุงปารีสกับหมอผู้เชี่ยวชาญด้านอัมพาต ที่นั่นฟรอยด์ได้ค้นพบว่าความจริงแล้วคนไข้บางรายป่วยเป็นอัมพาตเนื่องจากภาวะทางจิตใจไม่ใช่ร่างกาย
หลังจากกลับมาอยู่ที่กรุงเวียนนา ฟรอยด์จึงตัดสินใจเดินบนถนนของจิตแพทย์ และใช้วิธีการรักษาแบบจิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis) กับคนไข้ที่เป็นอัมพาต กล่าวคือให้ผู้ป่วยเล่าถึงความคับข้องใจหรือความหวาดกลัวและพยายามให้ผู้ป่วยเข้าใจเหตุการณ์นั้นๆ เพื่อลดความขัดแย้งในใจ ปรากฏว่ามีผู้ป่วยหลายรายหายจากอัมพาต
นอกจากนี้เขายังได้เขียนตำราเกี่ยวกับทฤษฎีที่เขาค้นพบไว้หลายเล่ม ซึ่งเรื่องที่มีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็เช่น The Interpretation of dream (1900), New Introductory Lectures on Psychoanalysis (1933) เป็นต้น ทั้งนี้เขายังมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมากอีกด้วย
ฟรอยด์ถือเป็นทั้งแพทย์และนักจิตวิทยาที่บุกเบิกการศึกษาทางด้านจิตวิทยา ทฤษฎีต่างๆ ที่เขาค้นพบยังคงนำมาใช้รักษาโรคทางจิตอยู่จนถึงปัจจุบัน หนึ่งในแนวคิดที่โด่งดังที่สุดของเขาก็คือ ความเชื่อที่ว่าพลังจิตใต้สำนึกมีผลต่อพฤติกรรมของแต่ละบุคคลและจำแนกบุคคลให้มีลักษณะแตกต่างกัน
เขาอธิบายว่าจิตใต้สำนึกของคนเราแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ อิด(Id), อีโก้(Ego) และ ซูเปอร์อีโก้(Superego) โดย อิดจะเป็นพลังอารมณ์ความรู้สึกที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด เช่น รัก โลภ โกรธ หลง หรือเรียกว่าเป็นสัญชาตญาณดิบของคนเรานั่นเอง ซึ่งหากคนเรามีอิด เพียงอย่างเดียวก็จะไม่ต่างอะไรกับสัตว์ที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจตัวเองได้
ในขณะที่ ซูเปอร์อีโก้จะเป็นพลังงานที่เกิดจากการเรียนรู้ค่านิยมต่างๆ เช่น ความดี ความชั่ว มโนธรรม เป็นต้น ซึ่งเป็นพลังในส่วนดีของจิตมนุษย์ที่จะคอยหักล้างกับพลังอิด
ทั้งนี้ในระหว่างความสุดขั้วของอิด และซูเปอร์อีโก้นั้นจะมี อีโก้อยู่ระหว่างกลางคอยทำหน้าที่ควบคุมไม่ให้คนเราแสดงสัญชาตญาณดิบออกมามากเกินไป แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้คนเราแสดงออกซึ่งมโนธรรมเพียงอย่างเดียวเฉกเช่นซูเปอร์อีโก้